ผู้ที่จบมาแล้ว หากเราเริ่มต้นดี บั้นปลายเราก็ประสบผลสำเร็จ หากออกสตาร์ทช้า เดินทางผิด เราก็อาจจะล้มลุกคลุกคลานถลอกปอกเปิกแลกกันไปแต่หากเรายืนขึ้นตั้งตัวได้เร็วเท่าไร โอกาสที่จะวิ่งเข้าเส้นชัยก็ยังมี
ผู้มีประสบการณ์ได้ให้ทัศนไว้ว่า
" ทำงานมา 10 ปีแล้ว ก็อยากจะให้ข้อคิดเล็กๆน้อยๆเพื่อเตือนสติ เหล่าหนุ่มสาวที่กำลังจะก้าวเข้ามาสู่วัยทำงานครับ อันดับแรกเลยคืองานที่เราจะทำ ส่วนใหญ่แล้วอาจจะเกิน 70% ถ้าเข้าไปทำแล้วคนจะไม่ยอมเปลี่ยนที่ทำงาน เพราะคนเราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไร ไม่ชอบไปหาที่อยู่ใหม่ หาเพื่อนใหม่ เรียนรู้ใหม่ ยกเว้นเสียแต่ว่า บรรยากาศในที่ทำงานมันแย่ หรือต้องการอัพเงินแรงๆ ออกจึงดีกว่าอยู่
ดังนั้นงานแรกในชีวิตของเราจึงสำคัญครับ เพราะบางคนก็อยู่กับมันไปอีก 10-20 ปี หรือยันเกษียณเลยทีเดียว อาจจะไม่สำคัญที่สุดแต่ประสบการณ์จากงานแรกนี่แหละครับ ที่อาจจะชี้วัดอนาคตเราได้เลย "
ทิ้งท้ายไว้อีกสักเรื่อง เวลาเราทำงานหาเงินได้ เราจะกระหายกับการใช้ชีวิตกินดื่มยามค่ำคืน หรือออกทริปแบกเป้ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก บางคนทุ่มเทเงินลงไปกับการเที่ยวทุกอาทิตย์ ทุกเดือน จนไม่มีเงินเหลือเก็บ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ตั้งตัวกันช้า แก่ตัวไปก็ลำบาก เราต้องไม่ลืมว่าบางครั้งคนข้างหลังเราเขาก็รอเราอยู่ เรามีพ่อแม่ที่ต้องดูแล เริ่มเก็บเงิน ออมตังค์เสียแต่วันแรกเลยจะดีกว่า
ปล. มีน้อยครับที่มนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ จะได้งานตามที่ตัวเองใฝ่ฝัน ทำแล้วมีความสุข ดังนั้น ความสุขเล็กๆน้อยๆ บรรยากาศดีๆในที่ทำงาน ก็อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่รั้งให้เราทนทำต่อไป ขอให้มความสุขกับการใช้ชีวิตในวัยทำงานทุกคน "
ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน
ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน เป็นสูตรที่ใช้ได้ดี หากเราได้ที่ทำงานที่ดี เราอาจตั้งความหวังไว้ว่าจะฝากอนาคตไว้กับที่ทำงานนี้ แต่ การเผื่อ อะไรๆ ไว้ กันความผิดพลาดในอนาคตเราไม่ควรละเลย วันหนึ่งบริษัทที่เรารักและฝากอนาคตไว้ อาจมีเหตุจำเป็นต้องแปรสภาพไปในทางที่เราไม่ต้องการ
โลกพัฒนาขึ้นทุกวัน ธุรกิจใดตามไม่ทัน งานที่เราทำอยู่กับบริษัทนั้นๆ อาจไม่มั่นคง